ในชีวิตการทำงาน คุณมีใครเป็นต้นแบบไหม
และหากถามคำถามนี้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาก็จะตอบว่าไอดอลในสายงานโค้ชฟุตบอลคือเจ้านายของเขาเอง “เขาคือ โวล์ฟกัง แฟร้งค์ น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตเร็วไป” กุนซือเยอรมันตอบด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเคารพหลังจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์ ถามถึงเรื่องนี้
ในวงการฟุตบอล สำหรับ คล็อปป์ ไม่มีใครที่มีอิทธิพลต่อตัวเขามากไปกว่า โวล์ฟกัง แฟร้งค์ อีกแล้ว ถ้าไม่มี โวล์ฟกัง แฟร้งค์ แล้วล่ะก็ ถาดแชมป์ บุนเดสลีกา ที่ คล็อปป์ ทำได้กับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ หรือแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่ทำได้กับ ลิเวอร์พูล ก็อาจไม่เกิดขึ้น
“ตอนที่ผมเป็นกุนซือน่ะผมใช้หลายอย่างที่ได้เรียนรู้จากเขา” “เขาเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบเลยล่ะ” UFABET369 ยืนยันแบบนั้น ก่อนหน้านี้ ชื่อของ แฟร้งค์ แทบไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ คนที่รับรู้คงมีเพียงคนที่เคยเกี่ยวข้องกับตัวเขาเท่านั้น
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จากการที่ คล็อปป์ มีชื่อเสียงโด่งดังก็ช่วยให้ แฟร้งค์ ได้รับการรู้จักมากขึ้นทั้งในประเทศตัวเอง หรือแม้แต่นอก เยอรมนี ก็ตาม ชีวิตการคุมทีมของ แฟร้งค์ มีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงเหมือนกับกุนซือคนอื่นๆ
หากสภาพแวดล้อมของที่นั่นไม่เหมาะสมกับตัวเขา แฟร้งค์ มักจะไม่อยู่กับสโมสรใดสโมสรหนึ่งนานนัก งานคุมทีมครั้งแรกของ แฟร้งค์ เกิดขึ้นที่ เอฟซี กลารัส ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่ถือว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก
แนวคิดของ แฟร้งค์ ถือเป็นไอเดียที่แปลกใหม่สำหรับลีกสวิส เขานำทีมก้าวจากทีมระดับโนเนมขึ้นไปเล่นในระดับ เนชันนอลลีกา บี หรือลีกระดับสองของสวิตเซอร์แลนด์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี
ผลงานของ แฟร้งค์ ทำให้ในปี 1989 เขาก้าวไปคุมทีม เอฟซี อารัว ในลีกสูงสุดของ สวิส แต่ แฟร้งค์ อยู่กับทีมแค่ 1 ฤดูกาลเศษๆ แล้วก็ย้ายไปคุม เอฟซี เว็ตติงเก้น กับ เอฟซี วินเตอร์ตูร์ ระยะสั้นๆ
เขาใช้เวลากับสองทีมนั้นรวมแล้วไม่เกิน 2 ฤดูกาล โดยไม่สามารถทำผลงานที่น่าประทับใจได้เลย ก่อนจะย้ายกลับมายังบ้านเกิด เพื่อมาคุม ร็อต-ไวส์ เอสเซ่น ทีมในลีกระดับ 2 เยอรมัน
ติดตามข่าวสารได้ที่ cherryredproductions.com